วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2550

สรุปบทที่ 4 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์

สรุปบทที่ 4 การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์

การมื่อสารข้อมูลประกอบไปด้วยผู้ส่งข้อมูลที่มีหน้าที่ส่งข้อมูลไปให้ผู้รับข้อมูล โดยใช้โปรโตคอล หรือเรียกว่าข้อมูลไปให้ผู้รับรู้ข้อมูล โดยใช้โปรโตคอล หรือเรียกว่าข้อกำหนดที่ใช้ร่วมกันระหว่างผู้ส่งและผู้รับ การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจะมีอุปกรณ์สำหรับเชื่อมต่อคือ โมเด็ม เนื่องจากคอมพิวเตอร์รับ - ส่งสัญญาณแบบดิจิทัล ในขณะที่สายโทรศัพท์เป็นสัญญาณแบบแอนะล็อก โมเด็มจึงมีหน้าที่แปลงสัญญาณดิจิทัลที่ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณแอนะล็อกและส่งผ่านสายโทรศัพท์ได้ ในทางกลับกันโมเด็มก็ต้องทำหน้าที่แปลงสัญญาณที่เป็นรูปแบบแอนะล็อกให้เป็นสัญญาณดิจิทัลได้ด้วย
ทิศทางในการรับและส่งข้อมูลมี 3 รูปแบบ คือ 1)การส่งข้อมูลแบบทิศทางเดียว 2)การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางสลับกัน และ 3)การส่งข้อมูลแบบสองทิศทางพร้อมกัน โดยมีตัวกลางที่ใช้เป็นสื่อนำการสื่อสาร 2 ประเภทคือ 1)สื่อนำข้อมูลแบบมีสาย ได้แก่ สายคู่บิดเกลียว สายโคแอกเชียล และสายใยแก้วนำแสง และ 2)สื่อนำข้อมูลแบบไร้สาย ได้แก่ แสงอินฟราเรด สัญญาณวิทยุ ไมโครเวฟภาคพื้นดิน และสัญญาณดาวเทียม
การที่จำมำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถสื่อสารกันได้จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการเช่น ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยเชื่อมต่อมีจำนวนมากเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพของการสื่อสารตำลง ส่วนสื่อที่ใช้ในการนำข้อมูล ก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อม กอรปกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในเครื่อข่ายของการสื่อสารก็จะต้องมีความสมบูรณ์ไม่มีส่วนใดชำรุด และประการสุดท้ายจะต้องมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลในการสื่อสารแต่ละครั้งด้วยจึงจะทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ
ลักษณะของโครงสร้างที่ใช้ในการสื่อสารบนเครือคข่ายคอมพิวเตอร์มีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีข้อดและข้อเสียแตกต่างกัน เช่น โครงสร้างเครือข่ายแบบบัส และโครงสร้างเคือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน จ ะมีข้อดีคือใช้สายสัญญาณน้อยทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ข้อเสียคือถ้าเครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็จะส่งผลต่อการสือสารด้วยถ้าต้องการใช้งานได้ตามปกติต้องตัดเครื่องที่ชำรุดออกจากระบบไป ส่วนโครงสร้างเครื่อข่ายแบบดาว มีข้อดีคือ ถ้าต้องการต่อเชื่อมเครื่องใหม่ก็ทำง่ายโดยไม่ส่งผลกระทบต่อระบบหรือหากมีเครื่องเสียก็ยังทำงานต่อได้ ข้อเสียจะอยู่ที่หัวใจของโครงสร้างนั่นคือ ฮับ เพราะถ้าหากฮับไม่ทำงานก็จะทำให้ทุกเครื่องไม้สามารถทำงานต่อได้นั่นเอง โครงสร้างอีกลักษณะหนึ่งที่มีข้อดีก็คือโครคงสร้างแบบเมช คือสามารถส่งข้อมูลได้อย่างอิสระทำให้ส่งข้อมุลได้อย่างรวดเร็ว แต่ข้อเสียคือค่าใช้จ่ายสูงมาก และโครงสร้างแบบสุดท้ายคือ โครงสร้างเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์แบบผสม เป็นการผสมรวมระหว่างโครงสร้างทั้งหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละสภาพการณ์และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ได้เครื่อข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการสื่อสาร




จัดทำโดย นาย นิวัฒน์ ก๋าใจ 49324228

ไม่มีความคิดเห็น: